“เภสัช” กับการทำครีม

“พี่คะ หนูอยากเข้าคณะเภสัชค่ะ อยากทำเครื่องสำอาง”
“พี่คะ หนูอยากเข้าเภสัชค่ะ อยากทำครีม”

ถามว่าเรียนเภสัชได้ทำครีมมั้ย ได้ทำแน่นอนค่ะ แลปการทำครีมสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย เป็นแลปที่อยู่ในรายวิชาปฏิบัติการเภสัชการ 3 (Pharmaceutical Laboratoty 3) ที่จะได้เรียนกันในปี 3 เทอม 2 นั่นเองค่ะ

เวลาทำครีม เภสัชเขาทำครีมกันยังไง?

แอดจะขออธิบายรายละเอียดแบบคร่าว ๆ แบบคร่าวมาก ๆ (เพราะแอดก็ยังเรียนเรื่องยาครีมไม่จบ 5555) ยาครีมเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมยาอิมัลชัน (emulsion) ซึ่งเป็นการผสมกันระหว่างน้ำและน้ำมันในอัตราส่วนที่เหมาะสม โดยใช้ร่วมกับสารก่ออิมัลชัน หรือ อิมัลซิไฟเออร์ (emulsifier) ที่จะทำหน้าที่ในการเชื่อมน้ำกับน้ำมันให้เข้ากันได้ ซึ่งในระดับ ม.ปลาย น้อง ๆ อาจรู้จักอิมัลซิไฟเออร์มาบ้างแล้ว เช่นพวก ไข่ไก่ สบู่ หรือน้ำยาล้างจาน (แต่เราไม่ได้เอาไข่ไก่กับน้ำยาล้างจานมาทำยานะคะ 555555)

เบื้องหลังแลปสนุก ๆ ที่เห็นภาพออกมาเป็นการทำครีมสีขาว ๆ เนื้อเนียน ๆ (เหรออออ) นั้น คือองค์ความรู้เรื่องอิมัลชันที่นักศึกษาเภสัชศาสตร์ต้องเรียนกันมาอย่างแน่นปึ้ก เช่นว่า เพราะอะไรที่ทำให้น้ำกับน้ำมันถึงแยกชั้นกัน เกิดแรงอะไรบ้างและแรงเหล่านั้นมีความสมดุลอย่างไร เราจะสามารถทำอะไรกับแรงเหล่านั้นได้บ้างเพื่อทำให้น้ำกับน้ำมันสามารถเข้ากันได้ หลักการของอิมัลซิไฟเออร์คืออะไร มีกลไกในการทำงานอย่างไรบ้าง ฯลฯ

หลังเรียนรู้ภาคทฤษฎีมาแล้วก็มาเรียนรู้ภาคปฏิบัติกันต่อ โดยปกติแล้วการทำครีมจะสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งในโพสต์นี้ แอดจะขอเล่าแค่วิธีที่ทำในโกร่งแบบคร่าว ๆ ประกอบด้วย Dry Gum method และ Wet gum method (สามารถศึกษาเพิ่มเติมจากคลิปที่แอดแนบมาได้เลยค่ะ)

หลักการสำคัญของทั้งสองวิธี คือการผสมน้ำ น้ำมัน และอิมัลซิไฟเออร์ในสัดส่วนที่เหมาะสม กวนอย่างรวดเร็วให้ได้สารที่มีความหนืดข้นสีขาวที่เรียกว่าไพรมารีอิมัลชัน (primary emulsion) ซึ่งจะเป็นครีมที่คงตัวมากและไม่แยกชั้น จากนั้นเติมสารอื่น ๆ ลงไปในไพรมารีอิมัลชัน ปรับปริมาตรให้เรียบร้อยเป็นอันเสร็จ
ระหว่างทำก็อย่าลืมร้องเพลง “ส้มตำ มะละกอ ส้มตำ มะละกอ ส้มตำ มะละกอ ส้มตามม” นะคะ ครก (โกร่ง) พร้อม สาก (ลูกโกร่ง) พร้อม กวนวนไปค่ะ 555555
ฟังดูง่ายใช่มั้ยล่า…แต่พออยู่ในแลปจริง ๆ มันวุ่นวายมากเลยน้า 😂 มันไม่ง่ายเลยในการผสมน่ำกับน้ำมันเข้าด้วยกัน เพราะโดยปกติน้องก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าน้ำกับน้ำมันมันเข้ากันยากมาก ๆ แบบถ้าลองเทน้ำ กับน้ำมันเข้าด้วยกันในแก้วใส น้องก็จะเห็นการแยกชั้นของมันในแก้วทันที และใช่ค่ะ บางทีการทำครีม ถ้าผสมอิมัลซิไฟเออร์ไม่ดี หรือทำด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสมมันก็จะได้สภาพนั้นออกมา คือน้ำกับน้ำมันแยกชั้นกันแบบชาตินี้ยังไงฉันก็จะไม่รวมตัวกับเธออีกเลย สรุปทำใหม่ 5555555

อีกเรื่องหนึ่งที่ดูเหมือนจะไม่สำคัญแต่ความจริงแล้วแอดคิดว่ามันสำคัญอยู่ ก็คือ เรื่องของการเรียนเภสัชและการทำเครื่องสำอาง

จากการเรียนเภสัชสามปีที่ผ่านมา แอดอยากบอกน้องตามตรงว่า ถ้าน้องอยากเรียนเภสัชแล้วอยากทำเครื่องสำอาง การเรียนเภสัชอาจไม่สามารถตอบโจทย์น้องได้ ไม่ใช่ว่าเภสัชทำเครื่องสำอางไม่ได้นะคะ คือทำได้ แต่มันไม่เฉพาะทาง

ยกตัวอย่างครีมที่แอดพูดถึงในโพสต์นี้ ถ้าในทางเภสัช จะเน้นในการทำครีมที่ใช้ในการรักษาโรค เช่น Prednisolone Cream สำหรับทาแก้อักเสบ หรือครีมสำหรับผด ผื่น คัน แต่ถ้าน้องอยากเรียนทำครีมผิวเด้ง หน้าสวย เภสัชอาจได้เรียนอะไรแบบนั้นบ้าง แต่ไม่ได้เชี่ยวชาญเท่ากับคนที่เรียนเวชศาสตร์เครื่องสำอางโดยตรงแน่นอน

คือเภสัชจะเน้นทำครีม หรืออาจมีเครื่องสำอางบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปในทางรักษาโรค เภสัชไม่ได้สนใจมากว่า ใช้ครีมนี้แล้ว หรือทาโลชันนี้แล้วผิวจะนุ่มชุ่มชื้นไหม หรือจะทำให้ผิวขาวขึ้นหรือไม่ ขอแค่ว่าให้หายจากโรคผด ผื่น คัน โดยที่ผิวไม่แย่ไปกว่าเดิมก็เป็นอันใช้ได้ ในขณะที่เวชศาสตร์เครื่องสำอางเขาจะสนใจในแง่ความสวยงามเหล่านี้มากกว่า รวมถึงการตกแต่งสูตรตำรับอื่น ๆ เช่นพวกสารองค์ประกอบยิบย่อยที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพของครีมที่ใช้เพื่อความสวยงามเหล่านี้ด้วย

อีกอย่างคือการเรียนเภสัชนั้นเป็นการเรียนครอบจักรวาลทุกสิ่งอย่างมาก ยาสมุนไพร ยาแผนปัจจุบัน ยาน้ำ ยาเม็ด ยาแคปซูล ยาฉีด ยาแขวนตะกอน หรือแม้กระทั่งยาครีมที่เป็นส่วนหนึ่งของยา ดังนั้นคณะเภสัชศาสตร์จึงไม่เหมาะกับน้องที่ต้องการพุ่งเป้าไปที่ยาอย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ เช่นถ้าน้องอยากมุ่งเน้นไปที่ยาครีม หรือเครื่องสำอางต่าง ๆ ไปเวชศาสตร์เครื่องสำอางจะดีกว่า หรือสนใจยาสมุนไพร ยาแผนไทย ไปคณะแพทย์แผนไทยก็จะสามารถตอบโจทย์ได้เช่นกัน

แต่ถ้าน้องอยากเป็นเป็ดเรื่องยา ร้องก๊าบ ๆ พร้อมเรียนทุกอย่างครอบจักรวาลเกี่ยวกับยาทุกชนิดบนโลกใบนี้ (aka ยาลูกประคบในหมอยาท่าโฉลง…) มาเรียนเภสัชรับรองตอบโจทย์แน่นอน เพราะเรียนกว้างมาก และการเรียนเภสัชก็จะสามารถทำยาได้ทุกชนิด เพราะเภสัชเรารักยาทุกชนิด และเราจะไม่เลือกยาแบบไหนเลยแม้แต่ชนิดเดียวจ้า

แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นครีมแบบไหน ครีมที่ใช้ในการรักษาหรือครีมที่ใช้ในการเสริมสวยก็ตาม การเรียนรู้เรื่องครีมและการทำครีมเหล่านั้นก็ยังถือเป็นเรื่องยากอยู่ดี จนในแลปทำครีม พาร์ทเนอร์แลปของแอดถึงกับพูดออกมาเลยว่า

“จะไม่บ่นเวลาซื้อครีมแพงอีกแล้ว”

ครีมของเราทำยาก ครีมของเรามีน้อย โปรดใช้สอยอย่างประหยัดค่ะ 😆


Share this:

Posted in บทความ.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *