**ผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หรือมีแนวโน้มป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หรืออยู่ในภาวะเครียดมาก ๆ หรือมีแนวโน้มที่จะถูกทริกเกอร์จากคำเตือนด้านบน กรุณาเลี่ยงการอ่านโพสต์นี้นะคะ**
**ประเด็นของโพสต์นี้ค่อนข้างเซนซิทีฟ โพสต์นี้ถูกเขียนขึ้นในมุมมองของนักศึกษาเภสัชศาสตร์ชั้นปีที่สามคนหนึ่ง เป็นมุมมองที่เกิดจากคนเพียงคนเดียว ถ้ามีเหตุการณ์ไม่คาดคิดหรือใครที่ทริกเกอร์กับโพสต์นี้ของเรา แอดมินผู้เขียนโพสต์ขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวนะคะ**
.
.
.
.
การเรียนเภสัชมีทั้งหมด 6 ปี และเป็นสัจธรรมที่ใครหลายคนต่างก็รู้ว่า ชั้นปีที่เรียนหนักมาก ๆ ชั้นปีนึง คือชั้นปีที่สาม
ตลอดระยะเวลาที่แอดมินเรียนอยู่ชั้นปีที่หนึ่งและสอง ได้รับคำบ่นจากรุ่นพี่ปีสามและอาจารย์มากมายถึงความโหดในการเรียนชั้นปีที่สาม
เมื่อถึงปีที่แอดขึ้นชั้นปีที่สามแล้ว แอดก็เตรียมใจไว้แล้วระดับหนึ่งว่าต้องหนักแน่
พอมาเจอกับตัวถึงได้รู้ว่า…เออหนักจริงแหละ 5555555
หนักมาก หนักจนเหนื่อยถึงแก่นกระดูก ชีวิตนี้ไม่เคยเจออะไรที่หนักขนาดนี้มาก่อน การใช้ชีวิตแต่ละวันนั้นสุดกล้ำกลืน ฝืนตื่นขึ้นมาทุกเช้าด้วยความเหนื่อยอย่างถึงที่สุดทั้งกายและใจ แต่ความรับผิดชอบทำให้ต้องใช้ชีวิตต่อไป
แล้วนี่คือมุมมองของแอดที่ชื่นชอบในการเรียนคณะเภสัชศาสตร์ในระดับหนึ่งแล้วนะ ไม่ต้องพูดถึงเพื่อนที่ไม่ได้ชอบเรียนคณะนี้ตั้งแต่แรกเลย
สิ่งที่เพิ่มขึ้นพร้อมกับความหนักในการเรียน คือความเครียดของนักศึกษาที่พุ่งขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ และสิ่งที่ตามมาหลังจากความเครียดเหล่านั้นคือ “ความรู้สึกอยากตาย” หรือ Death wish โดย Death wish นั้นมีทั้งความรู้สึกอยากตายแบบอยาก “ฆ่าตัวตาย” หรือความรู้สึกอยากตายแบบหวังว่าวันหนึ่งเราจะตายไปเอง หรือ “Passive death wish”
ถึง Passive death wish จะไม่อันตรายเท่าความรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย แต่ยังไงก็ไม่ใช่ความรู้สึกที่ควรละเลย
ตอนนี้ แอดมินเลยมีบางอย่างอยากบอกทุกคน สำหรับความรู้สึกที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่ความผิดของทุกคนที่กำลังเกิดความรู้สึกแบบนี้ ด้วยภาระความเครียด ความเหนื่อย และปัญหาต่าง ๆ ที่สะสมมา ทุกคนเครียดได้ เหนื่อยได้ รู้สึกแย่ได้ และแม้แต่เกิด Death wish ก็ยังได้
ความเครียดของ นศภ. ก็มี นศภ. ด้วยกันนี่แหละค่ะที่จะเข้าใจกันมากที่สุด 🙂
ทุกคนคะ ทุกคนเก่งมากแล้วค่ะที่สามารถต่อสู้มาถึงที่นี่ได้ ทุกคนพยายามมากแล้ว ทุกคนสู้มากแล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่ทุกคนยังคงยืนหยัดอยู่ตรงนี้ ยังคงมีลมหายใจอยู่ที่นี่ นั่นเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมาก ๆ สำหรับพวกคุณแล้ว
ชีวิตของทุกคนตอนนี้อาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบ อาจจะยังมีปัญหาอีกมากมายที่ยังต้องจัดการ ตอนนี้คุณอาจจะยัง “ล้ม” อยู่ อาจจะยังรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอ แล้วเฝ้าถามตัวเองว่า “ทำไมฉันถึงไม่สู้”
เราอยากโอบกอดคุณไว้ บอกกับพวกคุณว่า ในเวลานี้ ท่ามกลางสถานการณ์ทุกอย่างเหล่านี้ มันไม่ผิดเลยที่พวกคุณจะล้ม มันไม่ผิดเลยที่คุณจะร้องไห้ หรือเสียใจ การที่คุ้มไม่ได้หมายความว่าคุณไม่เข้มแข็ง การที่คุณร้องไห้ไม่ได้หมายความว่าคุณอ่อนแอ
เพราะคนที่เข้มแข็ง ไม่ได้หมายถึงคนที่ห้ามล้ม ไม่ได้หมายถึงคนที่ห้ามร้องไห้ แต่หมายถึงคนที่ไม่ว่าจะร้องไห้กี่ครั้ง หรือล้มอีกกี่หน ต่อมาก็สามารถกลับขึ้นมาลุกยืน แล้วเดินต่อไปได้
เหนื่อยได้ ท้อได้ เสียใจได้ หรือแม้กระทั่งก้าวถอยหลังมาก็ยังได้ แต่ตราบใดที่เรายังรู้สึกถึงลมหายใจของเราที่ยังอยู่กับเราในตอนนี้ รู้สึกถึงอากาศในปอด รู้สึกถึงหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ รู้สึกถึงสัญญาณแห่ง “ชีวิต” ที่ยังอยู่กับเรา
เมื่อเราสามารถนำพา “ชีวิต” ของเราที่มีอยู่ให้กลับลุกขึ้นมาสู้ได้อีกครั้ง นั่นแหละคือความเข้มแข็งของทุกคนแล้ว
“ชีวิต” เป็นสิ่งที่มีค่านะคะ เพราะนั่นจะเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้เราได้รับรู้สัจธรรมว่า ทุกสิ่งมีผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขหรือเรื่องทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นเสียงหัวเราะหรือรอยน้ำตา ทุกสิ่งมีเกิดขึ้นมาแล้ววันนึงก็จะจางหายไป
หากเราใช้ชีวิตต่อไป เราจะได้เรียนรู้ถึงสัจธรรมเหล่านี้ แล้วเราจะสามารถบอกกับตัวเองได้ว่า “เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป”
“เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป” วลีสั้น ๆ แต่ใช้เวลาและความเจ็บปวดมากเหลือเกินในการเรียนรู้มัน แต่เราก็สามารถที่จะเรียนรู้มันได้ หากเราใช้ชีวิตอยู่ต่อ
แอดเองก็เป็นคนหนึ่งที่มี Death wish จนสามารถบอกกับทุกคนได้ว่า เราคือเพื่อนกัน 🙂 แต่สิ่งที่ทำให้แอดตัดสินใจที่จะยังมีลมหายใจอยู่ต่อไปในทุกครั้งคือ แอดอยากมีชีวิตต่อไป อยากรู้ว่าชีวิตคืออะไร แล้วชีวิตของคนคนหนึ่งจะสามารถพบเจอกับอะไรได้บ้าง
ตอนนี้พวกเราอายุแค่ยี่สิบกว่าปีเอง ใช้ชีวิตมาได้แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แอดไม่อยากทิ้งชีวิตอีกหลายสิบปีที่เหลือไป ชีวิตคนคนหนึ่งในระยะเวลาอันยาวนาน เราสามารถสร้างเรื่องราวและความทรงจำต่าง ๆ ได้อีกมากมาย
มองย้อนไปที่อดีต เราพยายามตั้งมากมายเพื่อให้ได้ชีวิตในวันนี้ มองที่ปัจจุบัน ตัวเราในวันนี้เองก็กำลังต่อสู้เพื่ออนาคต แล้วเราจะเลือกจบชีวิตตัวเองในตอนนี้ จบอนาคต ไม่ให้ตัวเราในอนาคตได้ย้อนกลับมาขอบคุณตัวเราในวันนี้เลยหรือ
สำหรับนักศึกษา เป้าหมายที่ทุกคนอยากได้คงเป็น “ใบปริญญา” ซึ่งแอดอยากจะบอกทุกคนว่า อีกไม่นาน พวกเราจะต้องได้มันมาอย่างแน่นอนค่ะ!
กอด ๆ แล้วสู้ไปด้วยกันนะคะ ทุกคนนน
.
.
.
.
ภาพที่แอดแนบมากับโพสต์นี้ เป็นภาพ story ของไอจีส่วนตัวของแอดเอง แอดทำเพื่อสื่อสารกับเพื่อนในรุ่นของแอดที่กำลังเจอกับความเหนื่อยในรูปแบบเดียวกันค่ะ เป็น story ต้นแบบของคอนเทนต์นี้เลยล่ะ ถ้าสนใจก็ลองไปอ่านดูได้นะคะ ^^
Share this: