วันนี้แอดมาพร้อมคอนเทนต์ใหม่ เนื่องจากแอบส่องเห็นน้องหลายคนแอบตกตะลึงที่คณะ/มหาลัยที่อยากเข้า มีคนสมัครเยอะมาก
สำหรับโพสต์นี้แอดขออนุญาตพูดถึงการสอบเข้ามหาลัยแบบรวมๆ นะคะ ไม่ได้ว่าถึงแค่คณะเภสัชอย่างเดียว
จำนวนคู่แข่งที่เยอะมาก ไม่ได้หมายความว่าจะสอบเข้ายากเสมอไป ในทางกลับกัน จำนวนคู่แข่งที่น้อยกว่า ไม่แน่ว่าอาจจะสอบเข้ายากกว่าก็ได้นะ
งงล่ะสิ 5555555
สำหรับการสอบเข้ามหาลัย แอดขอเน้นไปที่การยื่นสมัครรอบ Admission (ที่ปี 64 รวมรอบ 3 กับ 4 ไว้ด้วยกัน) คือระบบการยื่นสมัครรอบ Admission เนี่ย มันคือการยื่นคะแนน ถูกมั้ยคะ ใครมีคะแนนอะไรเท่าไหร่ก็ยื่นไป ดังนั้น จุดสำคัญที่จะเป็นตัวคัดเลือกว่าใครติดหรือไม่ติด ไม่ใช่จำนวนผู้สมัคร แต่เป็นคะแนนของผู้สมัครแต่ละคน
ต่อให้ผู้สมัครเยอะมากจนล้นฟ้าล้นแผ่นดิน แต่ถ้าคะแนนของผู้สมัครแต่ละคนไม่ได้สูงมากนัก สุดท้าย คะแนนสอบเข้าของคณะนั้นก็จะแปรตามผู้สมัคร
ในทางกลับกัน คณะกลุ่มคะแนนสูงที่มักมีคู่แข่งน้อยกว่า เพราะคนส่วนมากคะแนนไม่ค่อยถึงกัน คะแนนสอบของคณะนั้นก็จะยังเยอะอยู่ดี แม้ว่าจำนวนผู้สมัครจะน้อยกว่า แต่คะแนนของแต่ละคนที่ยื่น มันสูงทุกคน
ว่างๆ น้องลองไปเช็คตัวเลขผู้สมัครรอบแอดมิชชันในแต่ละปีดู กลุ่มคณะคะแนนสูง เช่น คณะสายวิทย์สุขภาพบางคณะ มีผู้สมัครและอัตราการแข่งขันถือว่าน้อยถ้าเทียบกับคณะกลุ่มอื่น แต่สุดท้ายคะแนนก็ยังคงไว้ที่ระดับสูงอยู่ดี
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่พี่ในฐานะรุ่นพี่ที่ผ่านการสอบเข้ามหาลัยมาแล้วอยากบอกน้องคือ เวลาสอบเข้ามหาลัย เราไม่ได้แข่งกับใคร เราแข่งกับข้อสอบและคะแนนของเราเอง ต่อให้เราจะมีคู่แข่งเป็นร้อยเป็นพันคน แต่ถ้าเราสอบออกมาแล้วได้คะแนนดี สุดท้ายเราก็จะชนะและทำตามความฝันของเราได้ในที่สุด
อย่าโฟกัสที่คู่แข่ง อย่าโฟกัสที่ใคร โฟกัสที่ใจเราเองดีที่สุดค่ะ
ถึงคู่แข่งจะเยอะและน่ากลัวยังไง แต่ทั้งหมดที่เราต้องทำก็มีแค่อ่านหนังสือและลงมือทำข้อสอบนะคะ
เลิกกลัวได้แล้ว ไปทำหน้าที่ของตัวเองกันค่ะ
Share this: