จากข่าวนี้นะครับ >>>>>> สภาเภสัชกรรมเผยไทยขาดแคลนเภสัชกรหนัก จี้รัฐบรรจุราชการปีละ 1,602 คนติดต่อกัน 10 ปี
ข่าวนี้ จริงๆก็ 3 วันมาละ แต่ไม่พูดถึงคงไม่ได้
ถ้ายังจำกันได้ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวไม่บรรจุตำแหน่งให้เภสัช เอาจริงๆ ถ้าไล่ย้อนไปจริงๆ มันจะเป็นตามนี้
- พยาบาลออกมาโวยเรื่องยังไม่ได้บรรจุอีกกว่า 8000 ตำแหน่ง
- สช.(สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ) รายงานสถานการณ์ความต้องการกำลังคนด้านสาธารณสุขในอีก 10 ปีข้างหน้า
- ครม. อนุมัติตำแหน่งบรรจุให้แพทย์ ทันตแพทย์ และพยาบาล โดยพยาบาลนั้นให้ตามข้อเรียกร้องคือบรรจุให้ทั้งหมด 8000 กว่าตำแหน่ง แต่ให้เงื่อนไขว่าจะทยอยบรรจุให้หมดใน 10 ปี ส่วนเภสัชนั้นให้ สธ. ทำรายงานมาเสนอใหม่ (ไม่อนุมัตินั่นแหละ)
- สภาเภสัชออกมา take action ตามที่เป็นข่าวด้านล่าง
คือพี่ขออธิบายแบบนี้นะ
ระบบสุขภาพมันพัฒนาไปทุกวัน guideline มาตรฐานใหม่ๆมันก็ไปไกลมาก เพราะฉะนั้นถ้าอยากพัฒนาให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ มันก็ต้องใช้เงินเยอะขึ้นเรื่อยๆทุกปี รวมถึงกำลังคนที่ต้องเติมเข้าไปด้วย
นอกจากนี้เรากำลังจะเป็นสังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบแล้ว คนแก่เต็มประเทศ คนป่วยเต็มโรงพยาบาล ความต้องการใช้เงินและกำลังคนก็มากขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่รัฐไม่ได้มีรายได้เพิ่มนะครับ การที่คนแก่เยอะ แต่เด็กน้อย หมายความคนทำงานจ่ายภาษีในอนาคตจะลดน้อยลง นอกจากนี้การที่มีผู้สูงอายุมาก การบริโภคก็จะลดลงไปด้วย ทำให้เศรษฐกิจหดตัว ดังนั้นรัฐก็ต้องเลือกว่าจะเอาอะไร จะพัฒนาส่วนไหน หรือจะประหยัดส่วนไหน เพราะประเทศเราไม่ได้ร่ำรวย แถมในอนาคตก็ยังดูหม่นๆ ไม่รู้จะเอาตัวรอดยังไงดีด้วย (ที่ต้องมาดัน Thailand 4.0 กันก็เพราะว่าถ้าไม่ทำอะไรแล้ว aging มา เราตายแน่ๆ ได้แต่สวดมนต์ให้ท่องเที่ยวค้ำจุนประเทศอย่างเดียวเลย)
ปัญหาคือ “ต่างคนต่างไม่ยอม” ยังไม่ต้องมาถึงเรื่องตำแหน่งงานในสาธารณสุขหรอกครับ มาดูกระทรวงที่ได้งบต้นๆของประเทศทุกปีอย่างกระทรวงศึกษาธิการ ทุกวันนี้นักเรียนหายไปแล้ว 40% เมื่อเทียบกับแต่ก่อน แต่ว่าก็ยังยื้อเรื่องตำแหน่งบรรจุครูรวมถึงงบต่างๆเอาไว้ ทำให้ครูลดลงไปเพียง 10-20% เท่านั้น และการใช้งบประมาณก็ลดลงช้ากว่าที่ควรจะเป็น
แต่ว่า เราก็อาจพูดได้ว่า เด็กลดแต่ไม่จำเป็นต้องลดงบประมาณนิจริงไหม? ก็เอาเงินต่อหัวที่สูงขึ้น ครูต่อนักเรียนที่มากขึ้น มาทำให้เด็กมีคุณภาพมากขึ้นสิ โอเค ตอบแบบนี้อาจจะได้ แต่ที่ผ่านมาผลการประเมินคุณภาพก็ชี้ชัดไปในทางเดียวกันว่า “แย่ลง” หรือไม่ก็ “ดีขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย” (แต่ประเทศอื่นพัฒนาไปไวกว่าเรามาก ทำให้อันดับเราร่วง)
หรือมองกระทรวงอย่างกลาโหม ที่ถึงแม้ว่าจะใช้งบเมื่อคิดเป็น %GDP ของประเทศแล้วไม่ได้สูงมากเหมือนกระทรวงอื่นๆ แต่งบต่างๆก็ดูจะเป็นความลับ เปิดเผยรายละเอียดอะไรไม่ได้มากนัก เนื่องด้วยเหตุผลทางความมั่นคง แต่ก็อดสงสัยไม่ได้จริงๆว่า เราจะเป็นต้องใช้งบเยอะขนาดนี้ไหม โดยเฉพาะในส่วนของทหารระดับสัญญาบัตร ที่มีตำแหน่งเยอะมาก พูดกันตามตรง เรามีนายพลเยอะกว่ากองทัพ NATO ทั้งกองทัพซะอีก
เมื่อไม่มีใครยอมใคร มันก็เลยกลายเป็นว่า ใครที่ไม่ยอมและลุกขึ้นมาเรียกร้องก็ได้ไป (แต่ฝั่งไหนมีอำนาจในมืออยู่แล้วก็สบายหน่อย) แต่อย่าลืมว่าเงินมันมีจำกัด มีคนได้ก็ต้องมีคนเสีย คนไม่เรียกร้องก็กลายเป็นว่าไม่ปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองไปโดยปริยาย
พี่ขอแถมตัวเลขที่ สช. เคยรายงานเรื่องสถานการณ์กำลังคนด้านสุขภาพในอีก 10 ปีข้างหน้าไว้นะครับ (บอกไว้ก่อนว่า ในทางปฏิบัติ ไม่น่าจะทำได้ตามรายงานครับ)
ปริมาณกำลังคนด้านสุขภาพในปัจจุบัน
– แพทย์ มีจำนวน 50,573 คน (1 ต่อ 1,292 คน)
– พยาบาล มีจำนวน 158,317 คน (1 ต่อ 419 คน)
– ทันตแพทย์ มีจำนวน 11,575 คน (1 ต่อ 5,643 คน)
– ทันตาภิบาล มีจำนวน 6,818 คน (1 ต่อ 9,581 คน)
– เภสัชกร มีจำนวน 26,187 คน (1 ต่อ 2,494 คน)
– เทคนิคการแพทย์ มีจำนวน 15,200 คน (1 ต่อ 4,298 คน)
– นักกายภาพบำบัด มีจำนวน 10,065 คน (1 ต่อ 6,490 คน)
– สัตวแพทย์ มีจำนวน 8,000 คน (1 ต่อ 8,165 คน)
– นักวิชาการสาธารณสุข มีจำนวน 27,035 คน (1 ต่อ 2,416 คน)
– เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน มีจำนวน 27,006 คน (1 ต่อ 2,419 คน)
– แพทย์แผนไทย/ประยุกต์ มีจำนวน 30,371 คน (1 ต่อ 2,151 คน)
ความต้องการกำลังคนในปี 2569
แพทย์ 62779 คน
พยาบาล 186992 – 193048 คน
ทันตแพทย์ 17415(18675) คน
เภสัชกร 39913 คน
เทคนิคการแพทย์ 23942 คน
กายภาพบำบัด 11665 คน
สัตวแพทย์ 10252 คน
สาธารณสุข 128729 – 142997 คน
แพทย์แผนไทย/ประยุกต์ 19080 คน
สถานการณ์การผลิตกำลังคนด้านสุขภาพ
– แพทย์ มีการผลิต 21 สถาบัน ผลิตได้ปีละ 3,121 คน
– พยาบาล มีการผลิต 86 สถาบัน ผลิตได้ปีละ 11,000 คน
– ทันตแพทย์ มีการผลิต 13 สถาบัน ผลิตได้ปีละ 616 คน และจะเพิ่มเป็น 826 คน
– ทันตาภิบาล มีการผลิต 7 สถาบัน ผลิตได้ปีละ 400 คน
– เภสัชกร มีการผลิต 19 สถาบัน ผลิตได้ปีละ 2,000 คน
– เทคนิคการแพทย์ มีการผลิต 12 สถาบัน ผลิตได้ปีละ 911 คน
– กายภาพบำบัด มีการผลิต 16 สถาบัน ผลิตได้ปีละ 850 – 900 คน
– สัตวแพทย์ มีการผลิต 9 สถาบัน ผลิตได้ปีละ 650 คน
– สาธารณสุข มีการผลิต 69 สถาบัน ผลิตได้ปีละ 10,988 – 14,197 คน
– แพทย์แผนไทย/ประยุกต์ มีการผลิต 27 สถาบัน ผลิตได้ปีละ 1,080 คน
Share this: