ตอนสุดท้ายของซีรีส์นี้ (แต่ไม่ใช่ท้ายสุดของการเรียนเภสัช) ก็ว่าด้วยเรื่องการเรียนรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างเมื่อยาเข้าไปในร่างกายแล้วนั่นเอง
วิชาไฮไลต์ที่จะทำให้ นศภ. มีความรู้เรื่องยากก้าวกระโดดและทำให้เข้าใกล้ความเป็นเภสัชกรเข้าไปอีกขั้น แตาก็เป็นวิชาสุดยอดความลำบากแบบที่ทำให้ทุกคนเครียดตามกัน ถ้าไม่ให้พูดถึงวิชา “เภสัชวิทยา” (Pharmacology) เลยก็คงไม่ได้
แต่ถ้าจะให้พูดลงรายละเอียด ก็พูดไม่ได้เหมือนกัน เพราะ แอดยังไม่ได้เรียน 55555
อะ เอาเท่าที่รู้
- Pharmacology จะแบ่งใหญ่ๆ ได้เป็น “เภสัชพลศาสตร์” (Pharmacodynamics) และ “เภสัชจลนศาสตร์” (Pharmacokinetics)
- Pharmacodynamics จะว่าด้วยเรื่อง ยาทำอะไรกับร่างกายบ้าง พอมันเข้าไปในร่างกายแล้ว มันเกิดผลยังไง มันออกฤทธิ์รักษาได้อย่างไรนะ แล้วความเป็นพิษ และผลข้างเคียงต่างๆ ล่ะ มันมีที่มายังไง เราจะค่อยๆ เรียนรู้ว่ายาแต่ละตัว ก็จะมีอวัยวะหรือเซลล์เป้าหมายของมัน ที่พอมันไปถึงแล้วมันจะออกฤทธิ์รักษา แต่ถ้ามันไม่ได้ไปที่เป้าหมายนั้น กลับไปที่เซลล์อื่นๆ สิ่งที่ตามมาคือผลข้างเคียง
- Pharmacokinetics จะว่าด้วยเรื่อง ร่างกายทำอะไรกับยาบ้าง ร่างกายจะดูดซึมยายังไงนะ ดูดซึมที่กระเพาะหรือลำไส้เล็กเหรอ พอดูดซึมเข้าไปแล้ว จะลำเลียงยายังไงนะ จะเกิด metabolism อะไรบ้างนะ และจะขับถ่ายยังไงนะ (ทางอุจจาระ หรือ ปัสสาวะ) เราจะค่อยๆ เรียนรู้ว่า สิ่งที่สำคัญที่จะทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ดี ออกฤทธิ์ของยา นอกจากการที่ยาสามารถไปถึงอวัยวะเป้าหมายอย่างเฉพาะเจาะจงแล้ว ยังมีเอนไซม์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกฤทธิ์ของยาด้วย และเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการออกฤทธิ์ของยานี่เอง ที่เป็นคีย์สำคัญของ “ยาตีกัน”
ทั้ง Pharmacokinetics และ Pharmacodynamics รวมถึงองค์ความรู้ต่างๆ ที่เรียนมา จะช่วยในการต่อยอดไหสู่การเรียนรู้ในรายวิชา “เภสัชวิทยาคลินิค” (Clinical pharmacology) ที่ว่าด้วยเรื่องการประยุกต์ใช้ยากับคนจริงๆ ก็ถือเป็นวิชามหาโหดอีกตัวที่ทำให้ นศภ. หลายคนเสียน้ำตา แต่ก็ต้องผ่านไปให้ได้ถ้าอยากเป็น เภสัชกร
อะ การรีวิวการเรียนเภสัชในครั้งนี้ก็จบเท่านี้ แต่แอดขอย้ำว่านี่ไม่ใช่ทั้งหมดของการเรียนเภสัช มันยังมีอีกหลายมิติมากที่แอดอาจจะยังนึกไม่ออกตอนนี้ หรือต่อให้นึกออกก็ไม่สามารถเขียนออกมาเป็นตัวอักษรได้ แอดก็ได้แต่สื่อสารออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้ และหวังว่าจะทำให้มีคนเข้าใจการเรียนคณะเภสัชมากขึ้นอีกนิดก็ยังดี และจะดีมากๆ ถ้ามันสามารถจุดประกายความฝันของน้องๆ ให้อยากเข้ามาเรียนเภสัชมากยิ่งขึ้นค่ะ
สงสัยอะไรเพิ่มเติม สามารถมาถามได้ทุกเมื่อเลยนะคะ >>>> สอบถามที่เพจ tobepharmacist
Share this: