มาดูความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในแวดวงเภสัชกรรมบ้านเราบ้างครับ
ก่อนอื่นขอเท้าความก่อนว่า เนิ่นนานมาแล้ว ตั้งแต่กฎหมายสิทธิบัตรแบบใหม่ถูกประกาศใช้ อุตสาหกรรมยาบ้านเราก็อ่อนแอลงมาเรื่อยๆตลอด (แต่ก่อนเป็นสิทธิบัตรที่ตัวกระบวนการไม่ใช่ตัวผลิตภัณฑ์แบบทุกวันนี้)
ระบบการจัดซื้อของภาครัฐ ที่ต้องการได้ยาและเวชภัณฑ์ในราคาถูกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รวมถึงข้อกำหนดใหม่ๆของต่างชาติที่บีบเข้ามา เป็นตัวเร่งให้อุตสาหกรรมยาในประเทศเราอ่อนแอลงไปอีก
ผลคือ บริษัท เอกชน ในประเทศ แทบไม่มีงานวิจัยใหม่ๆออกมาต่อยอด ยาที่ผลิตในประเทศส่วนใหญ่จึงเป็นยาเก่า โบราณ ขายกันถูกๆ
ทีนี้ ปัญหาเกิดสิ เพราะเมื่อไม่มีเอกชนรายใดในประเทศ มีศักยภาพพอที่จะผลิตและวิจัยยาใหม่ๆได้ เราก็เลยต้องนำเข้ายาใหม่ๆแพงๆ มาจากต่างประเทศ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าแล้วมัน มหาศาล
มาดูทางฝั่ง ปตท.
ปตท. เอง พอจะรู้ตัวว่า อนาคตคงฝากความหวังไว้ที่น้ำมันอย่างเดียวไม่ได้ เพราะพลังงานทางเลือกกำลังมาแรงเหลือเกิน แต่ เสี่ย ปตท. มีตังเยอะนิ ก็คิดๆๆๆ จะเอายังไงดีน้าาาา แล้วก็ปิ๊งไอเดีย เห้ย เราก็เงินไปลงทุนในอุตสาหกรรมอื่นสิ กระจายๆความเสี่ยงกันไป
เริ่มแรก ปตท. ก็ลงทุนในอะไรที่มันเกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของตัวเองก่อน ไม่ว่าจะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหาร กาแฟอเมซอน โรงแรมราคาถูก คือ อะไรที่มันใส่ในปั๊มน้ำมันได้ แล้วก็เริ่มสยายปีกมาสู่สถาบันการเงิน ฟิตเนส
แล้ว ปตท. ก็นั่งคิดต่อ เอ้อ กุมีอะไรอีกน๊าา
เออ มีปิโตรเคมีนิ แล้วปิโตรเคมี มันจะต่อยอดเป็นอะไรได้อีก ก็นั่งนึก เคมีๆๆๆๆ เออ เคมีก็ยาไง อืมๆ น่าจะไปด้วยกันได้
เหมือนสวรรค์จะเข้าข้าง ทันใดนั้น ปตท. ก็เหลือบไปเห็น ตลาดยา โอ้โห 1.44 แสนล้าน แล้วก็มาไล่ดู แล้วก็อุทาน เห้ย!!! ยานำเข้าทั้งนั้นเลยนิหว่า
ปตท. ก็เลยไปหาข้อมูล แล้วก็พบว่า อ่อ ที่ต้องนำเข้าเพราะอุตสาหกรรมยาในประเทศไม่มีตังจะไปวิจัยยาใหม่ๆนี่นา ก็เลยปิ๊งไอเดีย เจอช่องทางทำเงินแล้ว แต่กุมีแต่ตังอ่ะ กุทำยาไม่เป็น ต้องทำไง “หาพันธมิตรสิ ใช่ๆ หาพันธมิตร” ทันใดนั้น ปตท. ก็เหลือบไปเห็นสาวแก่แม่ม่าย บิ๊กมอมแห่งวงการยา องค์การเภสัชกรรม
สาวแก่ผู้น่าสงสาร โดนด่าเช้าด่าเย็น ยาขาด ส่งยาไม่ทัน เพื่อนๆที่เป็นเอกชนก็ด่า (มรึง แย่งยอดขายตู) กำลังหัวยุ่งเป็นระวิง เสี่ย ปตท. ไม่รอช้ารีบเข้าไปหาแล้ว เอ่ย คำหวาน
“เอางี้ไหม พี่เห็นความตั้งใจของเธอนะ ตลอดระยะเวลาเธอพยายามสร้างความมั่นคงทางยาให้แก่ประเทศมาตลอด ถึงแม้ใครจะไม่เข้าใจ แต่พี่เข้าใจเธอเสมอนะ เอางี้ เรามาหาอะไรทำด้วยกันดีไหม เรามาร่วมลงทุนด้วยกัน สร้างเรือนหอ เอ๊ย โรงงานกัน เรื่องเงินไม่ต้องห่วง เอานี่ เดี๋ยวน้องเอาเงินพี่ไปก่อนพันล้านนะ ให้น้องไปศึกษาวิจัยยามะเร็ง 10 ชนิด แล้วเดี๋ยวพี่ขอกลับไปคุยกับทางบ้านแปบ แล้วเรามาตกลงเรื่องสร้างโรงงานกันนะ”
ก่อนกลับ ปตท. ตบท้ายว่า “เรื่องที่ทางไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่ใช้เส้นขอ BOI มันก็คงต้องเป็นโซนระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นั่นแหละนะ”
อ่านข่าวเต็มๆได้ที่ >>> ปตท.ชิงตลาดยาแสนล. แตกไลน์ผนึกองค์การเภสัชฯจ่อตั้งรง.ผลิตยามะเร็ง
Share this: