เรื่องโฆษณายาหรือผลิตภัณฑ์สุขภาพเนี่ย เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายควบคุมไว้เข้มงวด แต่ทุกวันนี้มีการกระทำความผิดกันอย่างต่อเนื่องและมากมายทั้งคนทั่วไปและเภสัชเอง แต่ตอนนี้สภาเภสัชเริ่มลงโทษเภสัชจริงจังกับเรื่องนี้มากขึ้น กลายเป็นว่าถ้าคนทั่วไปเวลาโฆษณายาก็จะโดนแค่ พรบ.ยา แต่ถ้าเภสัชทำ ก็จะพ่วงความผิดของ พรบ.วิชาชีพ เข้าไปด้วย ผลคือทำให้เมื่อมีอะไรที่เข้าข่ายโฆษณายา เภสัชกลายเป็นเลี่ยงไม่เข้าไปยุ่ง ในขณะที่คนทั่วไปทำกันโจ่งครึ่ม สื่อต่างๆที่เข้าข่ายโฆษณายาหรือผลิตภัณฑ์สุขภาพมีแต่เรื่องบิดเบือน ไม่ถูกต้อง หรือเข้าใจผิดซะส่วนมาก ในขณะที่คนมีความรู้จริงๆ เลี่ยงการใช้สื่อ เพราะกลัวเรื่องการโฆษณาไปเลย พี่คิดยังไงกับเรื่องนี้บ้าง?
ส่วนตัวนะครับ จริงๆ ผมรู้สึกว่าเภสัชเรามี mindset เรื่อง zero defect ที่แข็งแรงมาก ซึ่งมันก็ไม่แปลกอะไร เพราะเรื่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัยและชีวิต ความผิดพลาด หรือ defect เป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับไม่ได้
และโดยปกติแล้วความ zero defect มันมักมากับอะไรชัดเจนแบบขาวดำไปเลย เช่น แบบนี้ได้ แบบนี้ไม่ได้ มันจะไม่ค่อยมี ได้ with justification หรือไม่ได้ ถ้าแบบนี้ …….
แต่ว่าการพัฒนา กับความผิดพลาด เป็นเรื่องคู่กันเสมอ ถ้าไม่มีช่องไว้เลย มันก็ไม่มีการพัฒนาเลย อย่าง telemed นี่เค้าไม่ติดเรื่องกฎหมาย เค้าก็พัฒนาไปก่อนเราได้ ลองผิดลองถูกกันไปก่อน แต่ก็ถือว่าเรา action ได้เร็ว อันนี้ขอชื่นชมทางสภา
หรือยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้น อย่างกัญชา ถ้าบอกว่าผิด 100% มันก็จะไม่มีการใช้ประโยชน์เลย แต่ถ้าเปิดช่องว่าให้ทดลองเพื่อการศึกษาได้ มันก็ได้ประโยชน์ในแง่ข้อมูล ได้ khow how หรือเปิดมากขึ้นไปอีกเป็นให้ใช้ทางการแพทย์ได้ มันก็จะได้ประโยชน์ในอีกมุมนึง แต่ถ้าเสรี 100% เลยประโยชน์ที่ได้อาจจะเริ่มได้ไม่คุ้มเสียละ
การโฆษณา มันก็มีระดับของมัน ตั้งแต่เจตนาไลฟ์สดเพื่อขายของเลย หรือทำเว็บใส่ตะกร้าสั่งซื้อเลย หรือโพสต์รูปลงเพื่อแจ้งว่าสินค้ามาแล้ว อันนี้ประโยชน์มีเพื่อแจ้งให้ลูกค้าที่อยากได้ยารู้ว่ายามาแล้ว แต่ก็อาจมีประโยชน์ทางการขายแอบแฝงเยอะอยู่ หรือแค่โพสต์ให้ความรู้แต่มีรูปหรือชื่อการค้าด้วย อันนี้เจตนาเพื่อการค้าน่าจะดูน้อยสุด แต่เจตนาเพื่อการขายมากน้อยแค่ไหนอันนี้ดูยาก คือมันก็มีระดับของมัน
แล้วธรรมชาติของธุรกิจ พอมี demand มันจะมี supply มาสนองเสมอ แต่เรามองว่ายา หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่นๆ ถ้าเราปล่อยเสรี มันได้ไม่คุ้มเสีย เราก็เอากฎหมายมากั้นไว้ แต่ธรรมชาติของกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมาย มันจะมีช่องให้เล็ดรอดไปได้เสมอ แต่เภสัชลำบากกว่าตรง โดนกั้นด้วยกฎหมาย 2 ฉบับ ช่องมันเลยน้อยกว่าคนทั่วไป
ยกตัวอย่าง อย่างเรื่องการโฆษณากับการรีวิว มันก็มีเส้นบางๆกัน คือเมื่อไรที่แค่อยากแชร์ประสบการณ์เฉยๆ มันก็เป็นแค่การรีวิว แต่เมื่อไรที่มีเรื่องประโยชน์ทางการค้าแอบแฝง มีการรับเงินมาเพื่อรีวิว หรือไม่ได้ใช้จริงแต่มาแอบอ้างรีวิว แบบนี้ก็เข้าข่ายโฆษณา ซึ่งถ้าบังคับใช้กับคนทั่วไป (ที่หัวหมอไม่ยอมเสียค่าปรับ แต่สู้คดี) กว่าจะหาหลักฐาน ดูเจตนา ว่าทำเพื่อการโฆษณาไหม มันก็ใช้เวลาและมีช่องให้หลุดเยอะ ทำให้เค้ามีช่องทางต่อสู้ของเค้า และไม่กลัวที่จะทำต่อ ในขณะที่เภสัชสามารถใช้ พรบ.วิชาชีพ บังคับใช้ทันที ทำให้คนทั่วไปพูดเรื่องยาง่ายกว่าเภสัชในทางปฏิบัติ
แล้วทุกวันนี้ เทคนิคการโฆษณายาต่างๆมันก็พัฒนาและซับซ้อนขึ้นไปมาก
ส่วนตัวอยากจะฝากสภาเรื่องการบังคับใช้ พรบ.วิชาชีพ ครับ อยากให้ชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์และโทษที่เกิดขึ้นของการกระทำนั้น ประกอบกับเจตนาในการทำ ว่าจงใจทำไปเพื่อการค้ามากน้อยขนาดไหน ไม่อยากให้มองเป็นถูกหรือผิดไปเลย เพราะเรื่องถูก/ผิด ให้ พรบ.ยา และกระบวนการยุติธรรมทำงานของมันไปครับ
Share this: