“โรคซึมเศร้ากับการเรียนคณะเภสัช” Part 2

เนื้อหา Part 1 >>>> โรคซึมเศร้ากับการเรียนคณะเภสัช Part 1

เมื่อเรื่องถึงอาจารย์ สิ่งที่เกิดขึ้น คืออาจารย์พยายามช่วยเหลือเพื่อนอย่างเต็มที่ ไม่ได้หมายถึงอาจารย์คนใดคนหนึ่ง แต่คือคณาจารย์หลายคนในคณะที่แท็กทีมกัน ร่วมมือกัน และทำให้เราได้เห็นในสิ่งที่เราไม่คิดว่าจะได้เห็นในชีวิตนี้

ได้เห็นในสิ่งที่เรียกว่า “จิตวิญญาณของความเป็นครู”

เห็นครูที่ช่วยเหลือนักเรียนอย่างเต็มที่ จริงใจ ใส่ใจรายละเอียด และทุ่มเทช่วยเหลือนักศึกษามากจนเราไม่อยากเชื่อว่าวันหนึ่งเราจะได้เจอครูที่ดีขนาดนี้
ครูคนหนึ่ง เป็นคนที่พร้อมที่จะเคลียร์เวลาของตัวเองเพื่อให้เวลากับเด็กได้เหมือนกัน (ในวันที่แอดเศร้าที่สุด แอดเคยวิ่งไปหาครูคนนี้ ไปร้องไห้ใส่ครูเขา 55555) เป็นคนที่พร้อมให้คำปรึกษา และวางตัวกับนักศึกษาทุกคนในคณะเป็นแบบรุ่นพี่รุ่นน้อง เวลาเรียนในคลาสเรียน มักจะมาพร้อมคำคมและการสอนคติในการดำเนินชีวิตเสมอ

ครูอีกคน อาจจะไม่ได้คุยกับแอดโดยตรงบ่อยนัก แต่ครูคนนี้ เป็นครูที่ปรึกษาของเพื่อนแอดที่ดีมาก ครูเขาตามเพื่อนของแอดไปพบจิตแพทย์ด้วยกัน เพื่อรับรู้ถึงปัญหาที่เพื่อนกำลังเจอ และหาทางช่วยเหลือที่ดีที่สุด

ครูคนนี้พร้อมเคลียร์งานของตัวเอง เพื่อจัดเวลาว่างให้นีกเรียนอยู่เสมอ ครูคนนี้มักจะพกสมุดเล่มหนึ่ง ในสมุดเล่มนั้นมีชื่อเด็ก และรายละเอียดทั่วไปของเด็กที่เคยไปปรึกษาครูคนนั้นอยู่ ทุกครั้งเวลาเด็กไปปรึกษา หรือได้รับรายละเอียดอะไรที่น่าสนใจ รายละเอียดนั้นจะถูกบันทึกลงไปในสมุดเล่มนั้น

ครูคนนี้ คือคนที่เดินไปบอกเพื่อนว่า ถ้าไม่ไหวก็ดรอปเถอะนะ ไม่ใช่เพื่อตัดรอนเพื่อน แต่เพื่อเป็นการรักษาเพื่อนไว้ บางครั้งเมื่อชีวิตการเรียนมันไปสุดทาง การดรอปออกมาพักก็ไม่ถือว่าเป็นทางออกที่เลวร้าย

แต่สัจธรรมหนึ่งที่ทุกคนรู้คือ การเรียนในคณะเภสัชไม่เหมือนกับคณะอื่น เมื่อคุณดรอป นั่นหมายถึงคุณต้องเรียนนานกว่าหกปีในทันที

การ “ดรอป” ในคณะที่แอดเรียน จำเป็นต้องได้รับลายเซ็นต์และการอนุญาตจากพ่อแม่ และอาจารย์คนนี้ คือคนที่คุยกับพ่อแม่ของเพื่อนให้เพื่อนเองเลย ว่าตอนนี้เพื่อนกำลังเจออะไรอยู่บ้าง

อาจารย์ที่แอดกล่าวถึง เป็นเพียงบางส่วนจากทีมอาจารย์ทั้งหมดกำลังช่วยเหลือเพื่อนอยู่เท่านั้น เมื่ออาจารย์ในคณะรู้ว่ามีเด็กป่วย และกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ สิ่งที่อาจารย์ทำไม่ใช่การนิ่งเฉย แต่เป็นการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และมีการทำงานร่วมกันเป็นทีมอย่างจริงจัง ทั้งหมดนี้เพื่อช่วยเหลือให้นักศึกษาในคณะ ให้เขา “เรียนจบ” หากว่าเขายังอยากเรียน

ตอนนี้ เพื่อนของแอดกำลังอยู่ในระหว่างการพักการศึกษาชั่วคราว สถานการณ์ต่าง ๆ กำลังดีขึ้นอย่างช้า ๆ ด้วยความช่วยเหลือจากคณะอาจารย์ และสถานการณ์ของปัญหาอื่นที่เคยรุมล้อมเพื่อนมาอย่างเรื้อรังก็ค่อย ๆ ถูกแก้ และตอนนี้ ทั้งเพื่อนและอาจารย์ก็มีความมั่นใจ ว่าเพื่อนจะยังสามารถไปต่อในเส้นทางคณะเภสัชศาสตร์แห่งนี้ได้

ระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่เพื่อนที่ได้เรียนรู้เท่านั้น แต่ตัวแอดเองก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ชีวิตมหาลัยมันคือการได้เจอสังคมที่กว้างใหญ่ขึ้นมามากกว่ามัธยม และการเจอปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่หนักหน่วงขึ้น มันไม่ผิดเลยค่ะที่ใครสักคนจะล้ม ซึ่งเมื่อเขาล้ม สิ่งที่เราทำได้คือพยายามช่วยเหลือเขาเท่าที่เราทำได้ อยู่ข้างเขา เป็นกำลังใจให้เขา แต่ในขณะเดียวกันก็อย่าลืมดูแลสุขภาพจิตของตัวเองด้วย

อันที่จริง เหตุการณ์ของเพื่อนแอดคนนี้ ก็เป็นแค่เหตุการณ์จากคนเพียงคนเดียวอีกเหมือนกัน ยังมีเพื่อนแอดอีกหลายคนที่ป่วย และแม้แต่คนป่วยซึมเศร้าเองก็มีหลายประเภท คนป่วยซึมเศร้าบางคนก็น่ารัก ยังไงแอดก็ไม่อยากให้มีการเอาคำว่า “ซึมเศร้า” ไปอ้างเวลาทำพฤติกรรมที่ไม่ดี เหมือนกับที่เห็นตามข่าวต่าง ๆ ที่เราเห็นได้ทั่วไปค่ะ เพราะแอดรู้ดีว่า ไม่ใช่ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าทุกคนที่จะเป็นแบบนั้น

ท้ายที่สุดนี้ แอดขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน ไม่ว่าจะป่วยหรือไม่ป่วย หรืออยู่ในภาวะซึมเศร้าเองก็ตาม ขอให้ทุกคนสามารถผ่านพายุ ผ่านมรสุม ต่อสู้กับมันไปได้ หรือถ้าต่อสู้ไม่ได้ การพักไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิด แอดอยากให้ทุกคนลองตั้งสติ ลองมองคนรอบตัวดี ๆ เชื่อได้ว่ายังไงก็คงมีคนที่พร้อมจะช่วยเหลือ ทุ่มเทเพื่อคุณอยู่ ขอแค่ลองใช้หัวใจมอง และเปิดใจร้องขอความช่วยเหลือนะคะ
เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ 😊


Share this:

Posted in บทความ.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *