อันดับ | มหาวิทยาลัย | สมัคร | เข้าสอบ | ผ่าน MCQ | ผ่าน OSPE* | % ผ่าน |
1 | ม.ศิลปากร | 159 | 158 | 157 | – | 99.37 |
2 | ม.เชียงใหม่ | 128 | 128 | 126 | – | 98.44 |
3 | จุฬา | 180 | 179 | 172 | – | 96.09 |
4 | ม.มหิดล | 110 | 110 | 103 | – | 93.64 |
5 | มศว | 72 | 71 | 66 | – | 92.96 |
6 | ม.วลัยลักษณ์ | 86 | 86 | 78 | – | 90.70 |
7 | ม.สารคาม | 167 | 167 | 151 | – | 90.42 |
8 | ม.รังสิต | 101 | 101 | 89 | – | 88.12 |
9 | ม.สงขลา | 155 | 154 | 135 | – | 87.66 |
10 | ม.พะเยา | 36 | 36 | 31 | – | 86.11 |
11 | ม.นเรศวร | 125 | 125 | 106 | – | 84.80 |
12 | ม.อุบล | 98 | 98 | 82 | – | 83.67 |
13 | ม.ขอนแก่น | 130 | 130 | 100 | – | 76.92 |
14 | ม.หัวเฉียว | 177 | 177 | 130 | – | 73.45 |
15 | ม.อีสเทิร์น | 18 | 18 | 9 | – | 50.00 |
16 | ม.พายัพ | 79 | 79 | 37 | – | 46.84 |
17 | ม.สยาม | 54 | 54 | 24 | – | 44.44 |
อ่านเพิ่มเติมเรื่องข้อสอบรั่ว
คำชี้แจง คณะกรรมการสภาเภสัชกรรม กรณีข่าวข้อสอบรั่ว
คณะกรรมการสภาเภสัชกรรม ได้มีการประชุมคณะกรรมการวาระพิเศษ เพื่อพิจารณากรณี
มีข่าวข้อสอบรั่วของสภาเภสัชกรรม ในการสอบครั้งที่ ๒/๒๕๕๖ (OSPE) เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๖ โดยมีข้อความที่เป็นคำสำคัญที่มีความเห็นว่าเกี่ยวข้องกับข้อสอบ คือ ยาสวน enema, ยาคุม ๒๐
ไมโคร, เกลื้อน, Levigate ยา ๒ ตัว, Phenytoid ปรากฏในสื่อสังคมนั้น
คณะกรรมการสภาเภสัชกรรมได้พิจารณาข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วขอชี้แจงว่าจากข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะสามารถสรุปได้ชัดเจนว่ามีข้อสอบรั่วจริงหรือไม่ อย่างไร
ด้วยเหตุผลดังนี้
๑. ในส่วนของการจัดการสอบที่สนามสอบฯ ที่เกี่ยวข้อง พบว่าได้ปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติ (SOP) ที่ศูนย์สอบความรู้ฯ กำหนด อย่างเข้มงวดทุกขั้นตอน อย่างไรก็ตามคณะกรรมการฯ
มีความเห็นว่าในกระบวนการขั้นตอนที่ศูนย์สอบความรู้ฯ ได้กำหนดไว้ ซึ่งมีความเข้มงวดมากพอสมควร
ยังมีบางขั้นตอนที่จำเป็นต้องมีการปรับปรุงเพื่อให้ระบบการสอบมีหลักประกัน ความมั่นใจและความสบายใจ ต่อผู้เกี่ยวข้องกับการสอบทั้งหมด และลดความเสี่ยงของผู้เกี่ยวข้อง ที่จะต้องแบกรับภาระกรณีมีข้อบกพร่องเกิดขึ้น ซึ่งคณะกรรมการสภาเภสัชกรรมและศูนย์สอบความรู้ฯ จะเร่งรัดการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อไป
๒. การสอบความรู้ (OSPE) เป็นการจัดการสอบเพื่อที่จะประเมินทักษะในการประกอบวิชาชีพที่จำเป็นที่ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมจะต้องสามารถปฏิบัติได้ เป็นการประเมินว่าผู้สอบความรู้ฯ แต่ละท่านมีทักษะผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำของวิชาชีพที่พร้อมจะออกไปปฏิบัติงานหรือไม่ ไม่ได้เป็นการมุ่งประเมินเพื่อเปรียบเทียบว่าผู้เข้าสอบคนใดเก่งกว่ากัน หรือสถาบันใดมีคะแนนสอบสูงกว่าสถาบันใดหรือไม่อย่างไร การประเมินส่วนใหญ่จะประเมินขั้นตอนการปฏิบัติ มากกว่าที่จะมุ่งเน้นเพียงคำตอบคำสำคัญคำใดคำหนึ่ง
๓. ข้อมูลที่ระบุว่ามีการรั่วไหลของข้อสอบ เป็นเพียงการนำเสนอข้อมูลย่อจากการพูดคุยของนักศึกษา ๒ คน โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถาบันการศึกษา และหากจะพิจารณาว่าข้อสอบรั่ว ลักษณะของข้อมูลที่ปรากฏจะต้องเหมือนกับคำถามของข้อสอบอย่างชัดเจน ซึ่งจากการวิเคราะห์ คำสำคัญทั้ง ๕ คำที่ปรากฏดังกล่าว จะพบว่ามีคำสำคัญที่ตรงกับคำถามในข้อสอบจริง เพียง ๑ คำสำคัญ คือ คำว่า enema
สำหรับคำสำคัญอีก ๔ คำ ไม่ได้ตรงหรือสอดคล้องกับคำถามข้อสอบโดยตรงแต่อย่างใด และการจะได้คำตอบตามคำสำคัญในแต่ละข้อดังกล่าว จะต้องผ่านกระบวนการในการหาข้อมูลจากผู้ป่วย (ซักประวัติอย่างละเอียด) ก่อนที่จะสามารถสรุปว่าเป็นคำสำคัญดังกล่าว ซึ่งนักศึกษาต้องมีทักษะในการซักประวัติจึงจะสามารถได้คำตอบตามคำสำคัญดังกล่าว ประเด็นดังกล่าวจึงไม่น่าจะถือว่าเป็นข้อสอบรั่ว
๔. สภาเภสัชกรรมมีวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิก ขอให้สมาชิกได้มั่นใจว่าการจัดสอบความรู้เพื่อขอขึ้นทะเบียนและรับอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม สภาเภสัชกรรมให้ความสำคัญและเข้มงวดอย่างมากในการดำเนินการในทุกขั้นตอน เพื่อสามารถประเมินว่าผู้สอบความรู้ฯแต่ละท่านมีทักษะผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำของวิชาชีพที่พร้อมจะออกไปปฏิบัติงานได้จริง
แถลงการณ์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
กรณีการสอบความรู้เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ครั้งที่ 2/2556
จากคำชี้แจง คณะกรรมการสภาเภสัชกรรม กรณีข่าวข้อสอบรั่ว ในการสอบความรู้เพื่อขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ครั้งที่ 2/2556 เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2556 คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรขอชี้แจงข้อมูลเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1.การจัดการสอบความรู้เพื่อขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์สอบความรู้ฯ สภาเภสัชกรรม และทางศูนย์สอบความรู้ฯ ได้ขอความอนุเคราะห์ให้คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรเป็นสนามสอบดังกล่าว มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 ทั้งนี้ในการดำเนินการจัดสอบทุกครั้งสนามสอบ มหาวิทยาลัยศิลปากรได้ดำเนินการตามแนวปฏิบัติการจัดสอบทักษะทางวิชาชีพ OSPE ของศูนย์สอบฯ อย่างเคร่งครัดและเป็นไปตามที่ศูนย์สอบฯ ได้กำหนดไว้ทุกประการ
2.ตั้งแต่ปีการศึกษา 2552 เป็นต้นมา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้สนับสนุนให้นักศึกษาดำเนินโครงการทบทวนความรู้ ฝึกซ้อมทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการสอบความรู้ฯ อย่างเป็นระบบ และต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายได้มีการเตรียมความพร้อมมาตั้งแต่ต้นปีการศึกษา ซึ่งนักศึกษาเป็นผู้ออกแบบข้อสอบ สร้างข้อสอบและจัดการซ้อมสอบกันเอง โดยยึดแนวทางในคู่มือทักษะตามเกณฑ์ความรู้ความสามารถทางวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม คณะวิชาเพียงแต่สนับสนุนให้ใช้ห้องบรรยาย ห้องปฏิบัติการ ตลอดจนอุปกรณ์ และสารเคมีต่าง ๆ ซึ่งจะเห็นว่านับตั้งแต่มีโครงการทบทวนความรู้อย่างเป็นระบบ ผลการสอบความรู้ฯของนักศึกษาเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มีจำนวนนักศึกษาที่สอบผ่านเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพฯ ในจำนวนที่มากขึ้น
สำหรับการเตรียมความพร้อม การสอบ OSPE ของนักศึกษาครั้งนี้ จากข้อมูลที่ได้รับจากนักศึกษา ทราบว่า มีการออกแบบข้อสอบและจัดการซ้อมสอบกันเอง วันละสองรอบ ติดต่อกันทุกวันอย่างต่อเนื่องกัน ในระหว่างวันที่ 16 – 27 ก.พ. 2556 รวมแล้วไม่น้อยกว่า 20 รอบ
3.สำหรับข้อความที่ปรากฏในสื่อสังคมจำนวน 5 ข้อความในวันที่ 1 มี.ค. 2556 นั้น จากการตรวจสอบกับนักศึกษาที่จัดทำโครงการทบทวนฯ พบว่า ข้อความดังกล่าวนั้น ได้ปรากฏอยู่ในระหว่างการฝึกซ้อมของนักศึกษามาก่อนหน้านั้นแล้ว (ทั้งนี้นักศึกษาได้ส่งมอบหลักฐานเอกสารต่อคณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงที่สภาเภสัชกรรมแต่งตั้งเรียบร้อยแล้ว) อย่างไรก็ตาม ด้วยวัตถุประสงค์ของการสอบทักษะ จะมุ่งเน้นการทบทวนทักษะที่นักศึกษาได้เรียน และมีความสำคัญต่อการประกอบวิชาชีพ ซึ่งสภาเภสัชกรรม ได้กำหนดทักษะที่จำเป็นไว้แล้วในคู่มือทักษะตามเกณฑ์ความรู้ความสามารถทางวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม จึงไม่เป็นเรื่องที่ผิดปกติที่การฝึกซ้อมจะมีความใกล้เคียงกับหัวข้อที่จะใช้สอบจริง
4.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้รับคำยืนยันจากนักศึกษาผู้ที่ถูกพาดพิงและนักศึกษาผู้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คว่า นักศึกษาทั้ง 2 คนได้แลกเปลี่ยนข้อมูลที่ได้มาจากการทบทวนฯ รวมถึงข้อความสำคัญ 5 ข้อความดังที่ปรากฏนั้น เป็นระยะๆ ตั้งแต่วันที่เริ่มกระบวนการทบทวนความรู้ และยืนยันว่าข้อความสำคัญ 5 ข้อความนั้นไม่ได้มาจากข้อสอบแต่อย่างใด (ซึ่งไม่ตรงกับข้อสรุปของศูนย์สอบฯ ที่สรุปว่าข้อสอบรั่วมีมูล) แสดงให้เห็นว่าข้อความสำคัญดังกล่าวได้มีการแลกเปลี่ยนกันก่อนหน้าที่จะมีการดำเนินการสอบในวันที่ 1 มีนาคม 2556 แต่ด้วยเหตุที่มีข้อความปรากฏในสื่อสังคมโดยการโพสต์ลงในเฟซบุ๊คในวันที่ดำเนินการสอบในวันที่ 1 มีนาคม 2556 จึงอาจทำให้เข้าใจไปได้ว่าเกิดข้อสอบรั่วขึ้นในวันดังกล่าว
5.ข้อมูลที่ระบุว่ามีการรั่วไหลของข้อสอบ เป็นเพียงการนำเสนอข้อมูลย่อจากการพูดคุยของนักศึกษา 2 คน โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถาบันการศึกษา และหากจะพิจารณาว่าข้อสอบรั่ว ลักษณะของข้อมูลที่ปรากฏจะต้องเหมือนกับคำถามของข้อสอบอย่างชัดเจน ซึ่งจากการวิเคราะห์ คำสำคัญทั้ง 5 คำที่ปรากฏดังกล่าว จะพบว่ามีคำสำคัญที่ตรงกับคำถามในข้อสอบจริง เพียง 1 คำสำคัญ คือ คำว่า enema
สำหรับคำสำคัญอีก 4 คำ ไม่ได้ตรงหรือสอดคล้องกับคำถามข้อสอบโดยตรงแต่อย่างใด และการจะได้คำตอบตามคำสำคัญในแต่ละข้อดังกล่าว จะต้องผ่านกระบวนการในการหาข้อมูลจากผู้ป่วย (ซักประวัติอย่างละเอียด) ก่อนที่จะสามารถสรุปว่าเป็นคำสำคัญดังกล่าว ซึ่งนักศึกษาต้องมีทักษะในการซักประวัติจึงจะสามารถได้คำตอบตามคำสำคัญดังกล่าว ประเด็นดังกล่าวจึงไม่น่าจะถือว่าเป็นข้อสอบรั่ว (อ้างอิงจากคำชี้แจงกรณีข่าวข้อสอบรั่ว ข้อที่ 3 ของสภาเภสัชกรรม วันที่ 30 มีนาคม 2556)
6.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มีข้อเสนอแนะต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ดังนี้
6.1คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เห็นด้วยกับสภาเภสัชกรรมที่จะดำเนินการปรับปรุงแนวปฏิบัติการจัดสอบทักษะทางวิชาชีพ OSPE ของศูนย์สอบฯ ให้มีความสมบูรณ์และรัดกุมยิ่งขึ้น เพื่อเป็นหลักประกันและให้ความมั่นใจในกระบวนการจัดสอบความรู้ฯ ของทุกสนามสอบ
6.2คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ขอเสนอแนะแนวทางในการออกข้อสอบ OSPE ว่าควรเน้นการสอบทักษะที่เภสัชกรทั่วไปควรปฏิบัติได้ ซึ่งนักศึกษาเภสัชศาสตร์จากทุกสถาบันที่ได้ผ่านการเรียนการสอนและฝึกปฏิบัติวิชาชีพจากหลักสูตรที่สภาเภสัชกรรมให้การรับรองแล้วสามารถสอบผ่านได้ ไม่ควรเป็นข้อสอบในลักษณะที่เน้นการท่องจำ หรือข้อสอบในลักษณะ speed test หรือเป็นข้อสอบที่มีลักษณะเฉพาะเป็นกรณีที่ไม่พบโดยทั่วไป เพราะจะเป็นการส่งเสริมให้มีการจัดติวมากยิ่งขึ้น
6.3การประกาศผลสอบความรู้ฯ ควรเป็นสิทธิเฉพาะบุคคลในการรับทราบผลการสอบ จำนวนร้อยละของนักศึกษาที่สอบผ่านของแต่ละสถาบันควรเป็นสิทธิของแต่ละสถาบันในการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เป็นการส่งเสริมให้เกิดการเปรียบเทียบระหว่างสถาบัน เนื่องจากการที่สถาบันใดมีจำนวนร้อยละของนักศึกษาที่สอบผ่านได้มากหรือน้อยเป็นเพียงการบอกว่านักศึกษามีความรู้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมตามเกณฑ์มาตรฐานของสภาวิชาชีพฯ เท่านั้น
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ขอขอบคุณทุกท่านที่มีใจเที่ยงธรรม พร้อมที่จะรับฟังข้อมูลรอบด้านอย่างมีสติ และมีวิจารณญาณ ไม่ด่วนสรุปและตัดสินผู้อื่น เพื่อที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อของสังคมออนไลน์ และคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยกระบวนการควบคุมภายในที่เกี่ยวข้องกับการสอบ และความเคร่งครัดต่อการดำเนินการตามข้อกำหนดของศูนย์สอบฯ เป็นหลักประกันได้ว่าการสอบความรู้ผู้ขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ณ สนามสอบ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มีความโปร่งใส บริสุทธิ์ และอำนวยความยุติธรรมให้กับผู้เข้าสอบได้ โดยสามารถให้คำยืนยันได้ว่า ผู้ที่ผ่านการสอบความรู้ฯ จากสนามสอบ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ และมีทักษะที่ผ่านเกณฑ์ประเมินของศูนย์สอบความรู้ฯ อย่างแท้จริง
ทั้งนี้คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มีปณิธานแน่วแน่ที่จะผดุงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ ยุติธรรม จรรยาบรรณ คุณธรรม จริยธรรม หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ที่คณะฯ สามารถตรวจสอบได้ว่ามีผู้ใดเจตนาที่จะทำการทุจริตในการสอบครั้งนี้หรือครั้งใดๆ ก็ตาม ไม่จำเป็นต้องรอให้ผู้อื่นมาตรวจสอบ คณะฯ จะไม่ช่วยเหลือปกปิดข้อเท็จจริงและพร้อมที่จะลงโทษผู้ที่ทำการทุจริตดังกล่าวจนถึงที่สุด สำหรับการสอบในครั้งนี้คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ทำการตรวจสอบอย่างแน่ชัดแล้วว่าการจัดสอบครั้งนี้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม และพร้อมที่จะต่อสู้อย่างถึงที่สุดตามกระบวนการและครรลองของวิญญูชนที่พึงกระทำและขั้นตอนทางกฏหมายเพื่อผดุงไว้ซึ่งเกียรติยศและศักดิ์ศรีของพวกเราชาวเภสัชฯ ศิลปากร
เภสัชกรหญิง รองศาสตราจารย์ ดร.จุไรรัตน์ นันทานิช
คณบดี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
Share this: