ปกติ พี่จะไม่โพสต์เกี่ยวกับการทำนายคะแนนนะครับ เพราะมันเป็นเรื่องไม่แน่นอน มีโอกาสพลาดสูง อีกอย่าง พี่ไม่อยากชี้นำ เช่น ถ้าบอกว่าคะแนนจะลง น้องก็จะแห่กันไปเลือก หรือคะแนนจะขึ้น ก็จะมีน้องบางคนไม่กล้าเลือก แบบนี้
แต่ถึงพี่จะบอกไปแบบนี้ ก็มีน้องมาถามความเห็นพี่เยอะเหลือเกิน เพราะฉะนั้น พี่ที่จะบอกต่อไปนี้ ให้ถือซะว่า เป็นแค่ความเห็นของคนๆนึงเท่านั้นนะครับ
ก่อนจะพูดคะแนน เภสัช กสพท. 61 นี้ เรามาดูคะแนน กสพท. เภสัช ปี 60 ซะก่อน
ดูจากตารางนะครับ จะเห็นได้ว่า คะแนนเภสัช ปี 60 อยู่ระหว่าง 52 – 62 คะแนน โดยมีคะแนนเฉลี่ยที่ 58.3262 คะแนน
ทีนี้ เรามาดูปัจจัยที่ทำให้คะแนนขึ้น-ลงกันนะครับ
1. ปัจจัยเรื่องคะแนนวิชาสามัญ
ดูผิวเผินคะแนนวิชาสามัญ เหมือนจะลดลงมา 0.17% เมื่อคิดจากคะแนนเฉลี่ยทั้งประเทศ (weight น้ำหนักตามสัดส่วนที่กำหนดโดย กสพท. แล้ว)
แต่พี่ทำคะแนนโดยประมาณ 5000 คนแรกของประเทศมาด้วย
คะแนนนี้ไม่ใช่คะแนนของ 5000 คนแรกของประเทศจริงๆนะครับ เป็นการคิดคร่าวๆโดยนำสัดส่วนของคะแนน สทศ. ช่วง 5000 คนแรก ของแต่ละวิชามาคิด จากนั้นนำมารวมกันแล้วคิดเป็นสัดส่วนออกมา ก็จะพอรู้ว่าคนในระดับบนๆของประเทศ เค้าได้คะแนนกันประมาณเท่าไร แต่อย่าลืมว่า คน 5000 แรกของวิชานึง อาจไม่ใช่ 5000 คนแรกของอีกวิชาก็ได้ ดังนั้นคะแนนของ 5000 คนแรกจริงๆ จึงควรต่ำกว่านี้ นอกจากนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่สอบวิชาสามัญนั้นจะสอบ กสพท. ดังนั้นใน 5000 คนนี้ อาจมีคนสอบ กสพท. จริงๆ แค่ 3000 คนก็ได้ แต่พี่ทำขึ้นมา เพื่อจะบอกว่า คะแนนเฉลี่ยน่ะ มันใช้ไม่ได้ เพราะมันมีคนที่ไม่ได้อยู่ในสภาพพร้อมแข่งขันรวมมาด้วย เช่น มาสอบเล่นๆ หรือเตรียมพร้อมมาไม่ดีพอ อย่างที่เราเห็นว่า มีหลายวิชา คะแนนต่ำสุดเป็น 0 คะแนน ดังนั้น คะแนนเฉลี่ยจึงไม่สะท้อนคะแนนจริงๆของ กสพท. เพราะ กสพท. เป็นการแข่งขันของคนที่อยู่ในสภาพพร้อมจะแข่งขันเท่านั้น
แล้วเห็นอะไรไหมครับ ถึงแม้ว่าคะแนนเฉลี่ยโดยรวมจะลดลงมา แต่คนในระดับ top เมื่อคิดเป็นคะแนน กสพท. แล้ว คะแนนเค้าไม่ได้ลดลงเลย ในทางกลับกัน เยอะกว่าปี 60 ด้วยซ้ำ
ดังนั้น ปัจจัยเรื่องคะแนนวิชาสามัญในปีนี้ จึงนำมาคิดไม่ได้ โดยปัจจัยข้อนี้ ในปีนี้พี่ไม่ได้ให้บวกหรือลบครับ
2. ปัจจัยเรื่องคะแนนวิชาเฉพาะ
คะแนนเฉลี่ยวิชาเฉพาะเองก็ลดลงมาเล็กน้อย คือลดลงมา 16.0432 – 15.8298 = 0.2134 คะแนน
จากนั้น เราลองมามองที่ S.D. นะครับ S.D. ปี 60 คือ 35.3653 ส่วนของปี 61 คือ 23.5191 แสดงว่าคะแนนปี 61 เกาะกลุ่มกว่าปี 60 มาก แต่ กสพท. เป็นเรื่องของคน 2676 คนแรก ที่จะติดไปเท่านั้น ดังนั้นถ้าเราอยากรู้ว่า 2676 คนแรกได้คะแนนเท่าไร ก็อาจกะประมาณโดยดูจาก SD (คนสอบ กสพท ปี 61 มี 36,458 คน)
ปัญหาคือเราไม่รู้กราฟมันเป็นเบ๊ซ๊าย หรือเบ๊ขวา ดังนั้นจะสมมติว่ามันกราฟเป็น normal distribution
normal distribution
+1 SD = 68%
ดังนั้นคน 32% แรกทั้งประเทศ หรือราวๆ 11,600 คนแรก ปี 60 ได้คะแนน = 16.04320 + 3.53653 = 19.57973
ส่วนปี 61 32% แรกทั้งประเทศ หรือราวๆ 11,600 คนแรก ปี 61 ได้คะแนน = 15.82979 + 2.35191 = 18.1817
+2 SD = 95% =
ดังนั้นคน 5% แรกทั้งประเทศ หรือราวๆ 1800 คนแรก ปี 60 ได้คะแนน = 16.04320 + 3.53653 +3.53653 = 23.11626
ส่วนปี 61 5% แรกทั้งประเทศ หรือราวๆ 1800 คนแรก ปี 61 ได้คะแนน = 15.82979 + 2.35191 + 2.35191 = 20.53361
จะเห็นได้ว่าถึงแม้ว่าคะแนนเฉลี่ยจะห่างกันนิดเดียว แต่ด้วย SD ทำให้คะแนนอาจลดลงมาได้ 1-3 คะแนนเลยทีเดียว อย่างไรก็ดี พี่ไม่ได้ให้น้ำหนักมากนัก เพราะเราไม่รู้ว่าระฆังคว่ำมันเบ๊ซ๊ายหรือขวากันแน่
สรุป ประเด็นเรื่องวิชาเฉพาะ พี่คิดว่าน่าจะกดคะแนนให้ลงมาได้ 0.5 – 1 คะแนน
3. ประเด็นเรื่องที่นั่งในคณะเภสัชศาสตร์
****ประเด็นนี้เป็นประเด็นใหญ่ ที่มีผลมากที่สุด เพราะที่นั่งในคณะเภสัช เพิ่มจาก 160 ที่ มาเป็น 682 ที่นั่ง ในปี 61 หรือเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าตัว !!!!!
(ทั้งนี้ ก็เป็นโชคร้ายสำหรับน้องที่หวังรอบ admission เพราะที่นั่งที่เพิ่มขึ้นมาใน กสพท. มานี้ เกือบทั้งหมดถูกตัดมาจากที่นั่งในรอบ admission)
ดังนั้นที่นั่งที่เพิ่มขึ้นมหาศาล จะกดคะแนนให้ลงไปอย่างแน่นอน คำถามคือ จะกดลงไปได้กี่คะแนน
เรื่องกดลงไปได้กี่คะแนนนี้ตอบยาก เพราะแต่ละมอ ก็เพิ่มที่นั่งไม่เท่ากัน ยิ่งมอไหนมีนั่งน้อยๆ มอนั้นยิ่งละเอียดอ่อนต่อการเพิ่มลดของคะแนน หากมีเด็กแห่ไปเลือกมอนั้นมาก
ถ้าถามพี่ พี่ว่าประเด็นนี้ มีผลกดคะแนนเภสัชลงมา 1 – 1.5 คะแนน
4. ปีนี้ได้เห็นคะแนนก่อนเลือกอันดับ
ข้อนี้ ถือว่ามีน้ำหนักน้อยกว่า 3 ข้อแรกมาก แต่ถึงอย่างนั้น พี่ก็ยังคำนึงอยู่เล็กๆ เพราะจากประวัติการสอบทุกครั้งที่ผ่าน ไม่ว่าเป็นการสอบใดก็ตาม หากเด็กได้เห็นคะแนนก่อนเลือก คะแนนมักจะสูงขึ้นกว่าเดิมเมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา
ถ้าถามพี่ พี่ว่าประเด็นนี้ มีผลเพิ่มคะแนนเภสัชขึ้นมาได้ตั้งแต่ 0.01 – 0.5 คะแนน
สรุป
#สรุป ในความคิดเห็นของพี่ คะแนนเภสัช กสพท. ปีนี้ น่าจะลงประมาณ 1-3 คะแนน โดยมีโอกาสที่จะลง 1-2 คะแนนมากที่สุด
#อย่าเชื่อพี่มาก พี่ก็คิดไปเรื่อยเปื่อย
Share this: